ความหมาย #หินดูดทรัพย์ #หินไพลิน Blue Sapphire
โปรดปราน ปัญญา น่าดึงดูด
ความยาว : 35 ซม.3 มิล มี 140 เม็ด
ไพลิน(Blue Sapphire)
"อัญมณีแห่งปัญญา"
ไพลิน(Blue Sapphire) เป็นอัญมณีล้ำค่าในตระกูลคอรันดัม มีองค์ประกอบทางเคมีเป็น อลูมิเนียมออกไซด์ (α-Al2O3) โดยปกติจะเป็นสีน้ำเงิน ในสมัยโบราณ จะเรียกพลอยในตระกูลคอรันดัมที่มีสีน้ำเงินว่า แซฟไฟร์(Sapphire) แต่ในความเป็นจริงพลอยคอรันดัมมีได้หลากสี เช่น สีเหลือง, ชมพู, ม่วง, เขียว เป็นต้น โดยในภาษาไทยจะเรียกพลอยแต่ละสีเป็นชื่อต่างๆกัน เช่น สีน้ำเงินจะเรียกว่า ไพลินหรือนี่หร่า(Blue Sapphire), สีเหลืองเรียก บุษราคัม(Yellow Sapphire), สีเขียวเรียก เขียวส่อง(Green Sapphire), สีชมพูเรียกว่า พลอยชมพู(Pink Sapphire), สีแดงเรียกว่า ทับทิม(Ruby) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีไพลินที่แสดงสองสีในเม็ดเดียวกันได้ เรียกว่า "Parti Sapphire" โดยสีต่างๆที่เกิดขึ้นกับตัวพลอยเป็นผลมาจากธาตุที่อยู่ในผลึก เช่น เหล็ก ไทเทเนียม โครเมียม ทองแดงหรือแมกนีเซียม ในกรณีของไพลินเกิดจากสิ่งเจือปนของธาตุไทเทเนียม และเหล็ก โดยปกติไพลินธรรมชาติจะถูกตัดและขัดเป็นอัญมณีและสวมใส่ในเครื่องประดับ นอกจากนี้ยังสามารถสังเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเพื่อการอุตสาหกรรมหรือเพื่อใช้ในการตกแต่ง มีค่าความแข็งของโมร์อยู่ที่ 9 (เป็นแร่ที่แข็งที่สุดอันดับที่สามรองจากเพชรที่ 10 และ แร่มอยส์ซานไนต์(Moissanite) ที่ 9.5) นอกจากนี้ยังใช้ไพลินในการใช้งานที่ไม่ใช่ของประดับ เช่น ชิ้นส่วนเพื่อฉาบสำหรับมองแสงอินฟราเรด, หน้าต่างที่มีความทนทานสูง, กระจกสำหรับนาฬิกาข้อมือ รวมถึงตลับลูกปืน
ในปัจจุบันแซฟไฟร์ส่วนใหญ่มักผ่านการปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อนหรือที่เราเรียกกันว่าการเผา แต่ก็ได้รับการยอมรับกันโดยทั่วไปในตลาดพลอย เพราะการเผาจะทำให้สีดีของแซฟไฟร์ดีขึ้นและอยู่คงทนถาวร
แซฟไฟร์เป็นพลอยประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิดเดือนกันยายน และแซฟไฟร์ยังถือเป็นสัญญลักษณ์ที่คู่รักนิยมมอบเป็นของขวัญให้แก่กันในโอกาสครบรอบการแต่งงานในปีที่ 5, 15, 23 และ ปีที่ 45 แซฟไฟร์ได้รับความนิยมในหมู่คนทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ความเป็นมาของชื่อ
สมัยก่อนมีชื่อไทย ชื่อว่า "มณีนิลกาล" ตามที่พบในข้อมูลในชื่อของมณีนพเก้า ตามที่คนโบราณผูกกลอนไว้ว่า
"...เพชรดีมณีแดง เขียวใสแสงมรกต เหลืองใสสดบุษราคัม แดงแก่ก่ำโกเมนเอก สีหมอกเมฆนิลกาฬ มุกดาหารหมอกมัว แดงสลัวเพทาย สังวาลย์สายไพฑูรย์..."
ซึ่งตามคำกลอนดังกล่าว ไม่ได้เรียงตามระดับราคาหรือค่าความแข็งแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้พบว่าชื่อเรียกในโบราณนั้น ปัจจุบันสามารถหมายถึงรัตนชาตชนิดอื่นได้เช่นกัน ถ้าอ้างอิงตามกลอนบทนี้ สามารถถอดความเป็นรัตนชาต 9 อย่างได้ดังนี้
1. เพชรดี หมายถึง เพชร แร่รัตนชาติสีขาว (Diamond)
2. มณีแดง หมายถึง ทับทิม แร่รัตนชาติสีแดง (Ruby)
3. เขียวใสแสงมรกต หมายถึง มรกต แร่รัตนชาติสีเขียว (Emerald)
4. เหลืองใสสดบุษราคัม หมายถึง บุษราคัม แร่รัตนชาติสีเหลือง (แซฟไฟร์สีเหลือง)
5. แดงแก่ก่ำโกเมนเอก หมายถึง โกเมน แร่รัตนชาติสีเลือดหมู (Garnet)
6. สีหมอกเมฆนิลกาฬ หมายถึง แซฟไฟร์ แร่รัตนชาติสีน้ำเงิน(ไพลิน) (แซฟไฟร์สีน้ำเงิน)
7. มุกดาหารหมอกมัว หมายถึง มุกดา หรือ จันทรกานต์ แร่รัตนชาติสีขาวขุ่นคล้ายสีหมอก มีลักษณะพิเศษมีเหลือบรุ้งสีออกฟ้าสีนวล (Moonstone)
8. แดงสลัวเพทาย หมายถึง เพทาย(Zircon) ซึ่งตามคำกลอนนี้ จะนับเฉพาะแร่เพทายสีแดงเข้ม ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ไฮยาซินหรือ จาซินทร์ (hyacinth”หรือ “jacinth)
9. สังวาลสายไพฑูรย์ หมายถึง ไพฑูรย์ คำว่า "สังวาลสาย" หมายถึง อัญมณีที่มีสายพาดอยู่ จึงจัดว่าเป็นอัญมณีในกลุ่มคริสโซเบอริลแคทอายส์(Chrysoberyl-cat eye) ที่มีปรากฎการณ์ "ตาแมว(Chatoyancy)" เป็นลักษณะสายสังวาลดังกล่าว มีหลายสี เช่น สีเหลืองนวล สีเหลืองทอง สีน้ำผึ้ง สีเขียวแอปเปิล สีน้ำตาล ฯลฯ
แต่ปัจจุบันนิยมเรียกว่า "ไพลิน" ตามชื่อของแหล่งพลอยที่มีชื่อเสียง ซึ่งมาจากจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา ที่ในช่วงหนึ่งมีการนำเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
ชื่อในภาษาอังกฤษของไพลิน(Blue Sapphire) มาจากภาษากรีกว่า SAPPHEIROS นอกจากนี้(เนื่องจากมีสีน้ำเงินเหมือนกัน) ยังใช้คำนี้ในความหมายถึง "ลาพิส ลาซูรี(lapis lazuli)"ด้วย เดียวกันถูกใช้โดยชาวกรีกโบราณเพื่อกำหนดหินสองชนิดนี้ซึ่งเป็นไพลิน(Blue Sapphire)และ ลาพิส ลาซูรี(lapis lazuli) ไพลินยังคงเป็นที่รู้จักในสมัยกรีกโบราณภายใต้ชื่อ ไฮยาคิธอส(Hyakinthos) ซึ่งต่อมาก็เป็นชื่อภาษาอังกฤษเป็น ไฮยาซิน(Hyacinth) เป็นชื่อที่กำหนดให้กับเพทาย(Zircon)ในเวลาต่อมา
ลักษณะของไพลินในแต่ละแหล่งของโลก
พลอยสีน้ำเงินที่ขึ้นชื่อระดับโลกอยู่ในแคว้นแคชเมียร์ ทางเหนือของอินเดีย กล่าวกันว่า พลอยสีน้ำเงินของแคชเมียร์คล้ายกำมะหยี่สีน้ำเงินอมม่วง แต่มีลักษณะขุ่น ไม่โปร่งใส
กัมพูชาจะเป็นสีน้ำเงินและมีผลึกละเอียด
พม่า มีพลอยเกรดสีน้ำเงินเรียกว่า รอยัลบลู(Royal Blue)
ศรีลังกาเรียกว่า ไพลินซีลอน สีพลอยออกเทาน้ำเงิน
ออสเตรเลีย มีทั้งสีน้ำเงินอมเขียวเข้ม ถึงสีน้ำเงินอมม่วงมืด
แอฟริกามีสีน้ำเงินอ่อนๆ น้ำเงินม่วง และบางเม็ด จะมีคุณสมบัติเปลี่ยนสี(Color Change) ได้จากสีน้ำเงินเทาในแสงแดด เป็นสีเขียวหรือม่วงในแสงไฟ
ตำนานของอัญมณีไพลิน
ไพลินได้รับการยกย่องให้นำความโปรดปรานจากพระเจ้า และมีการอ้างถึงในประวัติศาสตร์ในหลายศาสนา
ชาวกรีกจะเรียกไพลินว่าเป็น "อัญมณีของเทพเจ้าอพอลโล(เทพแห่งพระอาทิตย์)" โดยชาวกรีกที่จะเข้าไปในวิหารเดลฟี่ต้องสวมไพลิน เมื่อต้องการเข้าไปถามเทพพยากรณ์ เนื่องจากมีความเชื่อว่า ไพลินจะทำให้ผู้สวมใส่เข้าใจคำตอบที่ได้มากยิ่งขึ้น
ชาวโรมันเชื่อว่า ไพลินถืออำนาจลึกลับทำให้เจ้าของมีสติปัญญาและสุขภาพที่ดี
ชาวฮีบรูเชื่อว่า ไพลินเป็นอัญมณีแห่งคำพยากรณ์ สติปัญญาและพระสิริแห่งพระเจ้า
บัญญัติที่ให้แก่โมเสสบนภูเขา ถูกจารึกไว้บนเม็ดของไพลิน
ไพลินเป็นหินหนึ่งในห้าอัญมณีที่ต้องติดไว้ที่หน้าอกของจอมเวทย์ระดับสูงของชนเผ่าอิสสาคาร์(Issachar)
ตราประทับของหินในแหวนแห่งเวทมนต์ของกษัตริย์โซโลมอนที่มีชื่อว่า "ตราแห่งโซโลมอน(Seal of Solomon)" เป็นไพลิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญา และเชื่อว่า มันให้พลังแก่ราชาในการสั่งปีศาจ และวิญญาณ รวมถึงสื่อสารกับสัตว์ได้ นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า ราชาโซโลมอนใช้พลังอำนาจของไพลินในการเกลี้ยกล่อมราชินีเซบา(Queen of Sheba)อีกด้วย
อับราฮัม(บุคคลสำคัญในหลายศาสนา) กล่าวว่าได้สวมใส่ไพลินที่งดงามรอบคอของเขา และเมื่อเขาตาย มันจะลอยขึ้นถึงดวงอาทิตย์
ชาวเปอร์เซียโบราณเชื่อกันว่าแซฟไฟร์ คือ "หินที่มาจากฟ้า" เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าโลก ตั้งอยู่บน แซฟไฟร์ ขนาดมหึมา จึงทำให้สะท้อนแสงแดด ออกไปสู่ท้องฟ้ามีสีน้ำเงิน ตามตำนานกล่าวว่า แซฟไฟร์เป็นพลอยของกษัตริย์ที่ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันภัยอันตราย ทำให้เชื่อกันว่าผู้ที่สวมใสแซฟไฟร์จะมีชีวิตที่สดใส มีพลังในการดำรงชีวิต และแซฟไฟร์นี้สามารถปกป้องอันตรายแก่ผู้ที่สวมใส่ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังถือเอาแซฟไฟร์นี้เป็นสัญลักษณ์ของความจริงใจ และมั่นคง
ชาวพุทธเชื่อว่าไพลินกำลังสงบและอำนวยความสะดวกในการภาวนา การทำสมาธิและการตรัสรู้
ชาวฮินดูถือว่าไพลินเป็นหนึ่งใน "อัญมณีอันยิ่งใหญ่" ที่ใช้เป็นหนึ่งในเครื่องประดับ นพเก้า(naoratna)
ในศาสนาคริสต์
เซนต์จอห์น(St. John)เห็นไพลินเป็นศิลาฤกษ์ที่สองของกรุงเยรูซาเล็มใหม่ในวิวรณ์ของพระองค์ซึ่งหมายถึงความสูงส่งของการได้ขึ้นสวรรค์ เซนต์แอนดรู(St.Andrew)มองว่า ไพลิน เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อเรื่องสวรรค์ของเขา นักบุญเจอโรม(St. Jerome)ถือว่าเป็น "หินศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ผู้สวมใส่ "มีความสงบ น่าคบหา ใจบุญและซื่อสัตย์" ช่วยป้องกันสิ่งที่ไม่ดีและความคิดชั่วร้าย
ในยุคกลางไพลินถูกนำมาใช้เพื่อทดสอบความความคิดที่ไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งจะเปลี่ยนสีถ้าสวมโดยคนไม่ซื่อสัตย์ นอกจากนี้ ไพลินสีน้ำเงินมักถูกสวมใส่โดยพระบรมวงศานุวงศ์เป็นเครื่องรางเพื่อปัดเป่าความชั่วร้าย
ความเชื่อของไพลิน
ตามความเชื่อของไทยในเรื่องของมณีนพเก้า จะผูกเป็นกลอน ดังนี้
เพชร ยิ่งใหญ่ไพรีไม่มีกล้ำ ทับทิม นำอายุยืนเพิ่มพูนผล
อุดมลาภยศศักดิ์ประจักษ์ดล มรกต กันภัยพ้นผองเล็บงา
บุษราคัม ฉาบเสน่ห์ไม่เสแสร้ง โกเมน แจ้งแคล้วพาลภัยใจสุขา
ไพลิน ย้ำความร่ำรวยช่วยนำพา มุกดาหาร เสน่หาน่าเมียงมอง
อันเพทาย ช่วยกันโทษที่โฉดเขลา ไพฑูรย์ เล่ากันฟอนไฟภัยทั้งผอง
ดลบันดาลให้เทวามาคุ้มครอง สบสนองคุณค่าแจ้งแห่งนพรัตน์
ในความเชื่อเรื่องการเสริมดวง ดังนี้ ช่วยเสริมดวงชะตา เสริมบารมีให้ผู้คนรักใคร่นับถือ สามารถใช้ได้ทั้งชาย และหญิง แต่หากเป็นหญิงที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต ควรสวมใส่ไพลินไว้เป็นเครื่องประดับ จะช่วยลดปัญหาระหว่างลูกน้องกับหัวหน้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ไพลินยังเหมาะกับผู้ที่ต้องใช้สมาธิ มีสติตลอดเวลา ช่วยให้เกิดความไม่ประมาท ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ เหมาะกับผู้ป่วยที่พักฟื้นเกี่ยวกับระบบประสาท หรือผ่าตัดสมองได้เป็นอย่างดี
สั่งซื้อ แอดไลน์ ไอดี : @lookpud
www.lookpud.com
หินไพลิน,หินไพลิน น้ําเงิน,แร่ไพลิน,หินน้ำเงิน,หินคืออะไร,ก้อนหินสีเขียว,หินแต่ละชนิด,หินน้ำเงิน,หินคืออะไร,ก้อนหินสีเขียว,หินแต่ละชนิด,
หินเสริมดวง,หินเสริมดวง 2565,หินเสริมดวงตามวันเกิด,หินเสริมดวงการเงิน,หินเสริมดวง วันศุกร์,หินเสริมดวง สุขภาพ,หินเสริมดวงวันอาทิตย์,หินเสริมดวงวันพฤหัส,หินเสริมดวงวันอังคาร,หินเสริมดวง pantip,หินเสริมดวงวันเกิด,หินเสริมดวง วันพฤหัส,หินเสริมดวง การเงิน,หินเสริมดวง วันอังคาร,หินเสริมดวง วันจันทร์,หินเสริมดวง วันเสาร์,หินนําโชค ความหมาย,ของมงคลเสริมดวง,ของมงคลเรียกทรัพย์,หินดูดทรัพย์,หินดวงวิญญาณ mir4,หินนําโชค ของแท้,เครื่องประดับเสริมดวง,หินนําโชค จริงไหม,สีหินนําโชค ตามวันเกิด,สีเสริมดวง,อ.จุฑามาศ ณ สงขลา


